การแปรงฟันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายและเป็นกิจวัตรที่เราทำทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่า “แปรงฟันผิดวิธี” คือหนึ่งในสาเหตุหลักของฟันผุ เหงือกอักเสบ และกลิ่นปาก แม้คุณจะแปรงฟันวันละสองครั้ง แต่หากทำไม่ถูกวิธี คราบจุลินทรีย์และเศษอาหารก็อาจยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สุขภาพช่องปากแย่ลงโดยไม่รู้ตัว
หากคุณกำลังวางแผนดูแลสุขภาพช่องปากอย่างจริงจัง หรือกำลังมองหาคลินิกเพื่อทำฟันในเชียงใหม่ การเริ่มต้นจากการแปรงฟันอย่างถูกวิธีถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อดูแลฟันอย่างมีประสิทธิภาพในทุกวัน
1. เลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะสม
- ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม หัวแปรงขนาดพอดีกับช่องปาก
- เลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ
- เปลี่ยนแปรงทุก 3 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเริ่มบาน
2. ขั้นตอนการแปรงฟันอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 1: วางแปรงให้ถูกมุม
• เอียงแปรงประมาณ 45 องศาเข้าหาแนวเหงือก เพื่อให้ขนแปรงสามารถเข้า ทำความสะอาดขอบเหงือกได้
ขั้นตอนที่ 2: ใช้แรงเบา ๆ และจังหวะสั้น ๆ
• แปรงเบา ๆ เป็นวงกลมเล็ก ๆ หรือปัดขึ้น-ลง
• หลีกเลี่ยงการแปรงแรง เพราะอาจทำลายเคลือบฟันและเหงือก
ขั้นตอนที่ 3: แปรงทุกด้านของฟัน
• ด้านนอก ด้านใน และด้านบดเคี้ยว
• ด้านในของฟันหน้า ใช้ปลายหัวแปรงแปรงขึ้น-ลงแนวตั้ง
ขั้นตอนที่ 4: แปรงลิ้นและกระพุ้งแก้ม
• ช่วยลดแบคทีเรียและกลิ่นปาก
ขั้นตอนที่ 5: ใช้เวลาอย่างน้อย 2 นาที
• แปรงวันละ 2 ครั้ง – เช้าและก่อนนอน
• ใช้ตัวจับเวลา หรือนาฬิกาจับเวลาช่วยฝึกช่วงแรกได้
3. เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันร่วมด้วยทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีหลังทานของเปรี้ยวหรือมีกรด เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ควรรออย่างน้อย 30 นาที
- ใช้น้ำยาบ้วนปากเสริมได้ แต่ไม่ควรใช้แทนการแปรงฟัน
FAQs
A: เพราะเป็นระยะเวลาที่เพียงพอในการทำความสะอาดฟันทุกซี่และทุกด้าน ช่วยลดโอกาสเกิดคราบจุลินทรีย์สะสม
A: ไม่จริง แปรงแรงเกินไปอาจทำร้ายเหงือกและทำให้เคลือบฟันสึก ควรแปรงด้วยแรงเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ
A: ไม่ควรทันที โดยเฉพาะหลังทานอาหารที่มีกรด ควรรออย่างน้อย 30 นาทีเพื่อให้ค่า pH ในช่องปากกลับสู่ปกติ
A: ทันทีที่ฟันซี่แรกขึ้น ผู้ปกครองควรช่วยแปรงให้ และดูแลจนกว่าเด็กจะสามารถแปรงได้เอง (ประมาณ 6-7 ขวบ)
